remarketing google ads

วิธีทำ Remarketing ด้วย Google ads [Step by Step]

[row]

[col span__sm=”12″]

วิธีการทำ Remarketing ด้วย Google แบบหมดเปลือก

การทำ remarketing หรือ retargeting คือ การที่เรานำสินค้าหรือบริการของเราไปโปรโมทกับกลุ่มคนที่เคยรู้จักสินค้าหรือบริการอยู่แล้วเท่านั้น โดยเป้าหมายส่วนใหญ่ของการทำ remarketing คือการทำให้คนจดจำ brand ได้เช่นการส่ง banner กลับไปหาคนที่เคยเข้าเว็บไซต์มาแล้วเมื่อ 7 วันที่แล้ว หรือการทำ upsell / crosssell เช่นการส่งรูปภาพของสินค้าและบริการอันอื่นที่ใกล้เคียงกับอันเดิมที่ลูกค้าของเราเคยซื้อไปแล้ว ซึ่งวิธีนี้นอกจะทำให้ลูกค้าของเราจดจำ brand ได้แล้ว ยังมีโอกาสปิดการขายเพิ่มเติมได้อีกด้วย

เราสามารถทำ remarketing กับกลุ่มคนแบบไหนได้บ้าง

  • คนที่เคยเข้าเว็บไซต์มาแล้ว เก็บแบบ cookie base ซึ่งอาจจะมาจากการเข้าเว็บไซต์ตรง หรือการเข้าผ่าน social media ต่างๆเช่นโฆษณา Facebook
  • คนที่เคยซื้อสินค้ามาแล้ว เก็บแบบ email base / cookie base
  • กลุ่มคน cart abandoner หรือ คนที่กำลังจะซื้อสินค้าแต่เปลี่ยนใจจังหวะสุดท้าย

[block id=”remarketing-menu-section”]

[scroll_to title=”step1″ link=”#step1″]

Step#1 ต้องมีเว็บไซต์และมีการติดตั้ง Google Tag Manager

ก่อนที่จะมีการทำ remarketing ผ่าน google ads ไม่ว่าจะเป็นการทำด้วยช่องทาง google search search หรือการทำ google display network หรือ GDN รวมไปถึงโฆษณา youtube advertising ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องมีเว็บไซต์ก่อนครับ เว็บไซต์ที่ดีควรมีการติดตั้ง Google Tag Manager ไว้ด้วยเพื่อการติดตั้งการวัดผลบนเว็บไซต์ต่อไป การที่เราวัดผลได้จะทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุง campaign การตลาดของเราได้ต่อไป

เราสามารถเช็คการติดตั้ง Google Tag Manager ของเราได้ว่าเรามีการติดตั้งแล้วหรือยังด้วยการใช้ Tag Assistant ซึ่งเป็น extension ใน Google Chrome 

download ได้ที่นี่

เมื่อทำการ download มาแล้วและเริ่มเปิดการใช้งาน ให้เรากดเข้าเว็บไซต์ของเรา จากนั้นกด Refresh ทีนึงเพื่อเป็นการเช็คว่ามี Google Tag Manager อยู่ในเว็บไซต์หรือไม่ หากว่าเจอแบบรูปข้างล่างถือว่าผ่านครับ

tag manager assistant

[scroll_to title=”step2″ link=”#step2″]

Step#2 มีการติดตั้ง Google Analytic

หากเราการติดตั้ง Google Tag Manager เรียบร้อยแล้ว เราสามารถติดตั้ง Google Analytic ต่อได้ทันทีผ่าน tag manager ซึ่งง่ายและสะดวกมากๆครับ ลองดูตามคลิปข้างล่างสำหรับวิธีการติดตั้งแบบละเอียดครับ

[scroll_to title=”step3″ link=”#step3″]

Step#3 มีการ link บัญชี Google Ads เข้ากับ บัญชี Google Analytic

หลังจากที่เราติดตั้ง Google Analytic ได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการเชื่อม Google Ads เข้ากับ Google Analytic ครับ การเชื่อมแบบนี้จะเป็นการอำนวยความสะดวกในการแชร์ข้อมูลที่สำคัญระหว่าง platform ซึ่งด้วยความที่ทั้งสอง platform เป็น product ของ Google เหมือนกัน เราจึงสามารถเชื่อมกันได้ไงอย่างง่ายดายครับ (Facebook ads จะทำไม่ได้นะครับ)

วิธีการ link Google Ads เข้ากับ Google Analytic

ให้เราเข้าไปที่ Google Analytic ของเราแล้วเลือก admin > product linking > Google Ads Linking ครับ

google ads linking

หลังจากนั้นให้เลือก บัญชี Google Ads ของเราที่แสดงอยู่จากนั้นให้ทำตามขั้นตอน เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

Tips: แนะนำให้ใช้ email เดียวกันในการสร้าง Google ads และ Google Analytic เพื่อความสะดวกในการเชื่อมครับ (แนะนำว่าควรมีสิทธิ admin ทั้งคุ่ก่อนที่จะทำการเชื่อมจะดีที่สุดครับ)

[scroll_to title=”step4″ link=”#step4″]

Step#4 ตั้งค่าการเก็บข้อมูลด้วย Google Analytic รวมไปถึงการสร้าง audience เตรียมไว้

หากเราไม่ตั้งค่าให้ Google Analytic เก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายแบบ Cookie เพิ่มหรือการเก็บ audience เราจะไม่สามารถเก็บ audience ได้นะครับ ดังนั้นเราจะต้องตั้งค่าการเก็บข้อมูลใน Google Analytic ก่อนเพื่อให้เราสามารถเก็บข้อมูลได้ สามารถทำตามได้เลยด้วยวิธีดังนี้ครับ

  • ให้เข้าไปที่ admin > tracking info > data collection แล้วเลือก enable ตามรูปด้านล่างได้เลยครับ
  • หลังจากนั้นให้สร้างเริ่มสร้าง audience ขึ้นมาใหม่ใน Google Analytic ครับ ซึ่งเราสามารถ segment ได้ตามที่เราต้องการเช่น คนที่เข้ามาจาก social media เท่านั้น แต่ในตัวอย่างนี้เราจะเริ่มจากการสร้างแบบพื้นฐานหรือการเก็บ cookie ของคนที่เคยเข้าเว็บไซต์เรามาทั้งหมดนั่นเองครับให้ไปที่ admin > audience definition > audienceaudience definitionเมื่อเราเห็นหน้าตาแบบด้านล่างให้เราเลือก next step จากนั้นให้เลือก บัญชี Google Ads ที่เราต้องการ เป็นอันเสร็จสิ้นครับaudience

[scroll_to title=”step5″ link=”#step5″]

Step#5 ตั้งค่า Google Ads ให้โฟกัสการโฆษณาเข้ากลุ่มที่เราต้องการ

หลังจากที่เราข้อ 1-4 จากด้านบนเรียบร้อยแล้ว เราสามารถเข้าไปตั้งค่า Google Ads ให้สามารถโฟกัสการโฆษณาไปที่กลุ่มเป้าหมาย หรือ audience ของเราได้เพื่อเป็นการทำ remarketing นั่นเองครับ

  • เมื่อเราเข้ามาใน Google Ads แล้วให้เราเลือก tools > audience manager > audience sources จากนั้นให้เลือก set upgoogle ads audience manager
  • ให้เลือกตามด้านล่างได้เลยครับ แต่ตรง Google Analytic view ให้เลือก GA view ตามเลขของ Google Analytic ของเรานะครับ หลังจากนั้นให้กด save and continue และ กด done ได้เลยเป็นอันเสร็จสิ้นครับGA View
  • ส่วนการนำไปปรับใช้กับ Google Ads นั้นเราสามารถเลือก audience แล้ว assign เข้าไปในระดับ campaign หรือ adgroup ได้เลยครับ ผมจะสาธิตการนำ audience เข้าไปใช้กับระดับ campaign ให้ดูนะครับ ให้ลองเข้าไปที่ระดับ campaign ที่ต้องการจากนั้นให้เลือกเมนู audience ด้านซ้าย และเลือก เพิ่ม audience ได้เลยครับgoogle ads add audience
  • เมื่อเราเข้ามาในระดับ audience เราสามารถเลือก option ได้ สองแบบครับ– targeting:  การตั้งค่าให้โฆษณาของเราแสดงผลกับกลุ่ม audience ที่เราเลือกเท่านั้น (หากต้องการทำ remarketing จริงๆ ควรเลือกแบบนี้ครับ เพราะเราจะสามารถสื่อสารข้อความที่พิเศษกว่าคนปกติหรือคนที่ไม่รู้จักเราได้โดยตรง) หากมั่นใจกับกลุ่ม audience นี้แล้วสามารถเลือกแบบนี้ได้เลยครับ– observation: การตั้งค่าให้โฆษณาของเราแสดงผลกับกลุ่ม audience ที่เราเลือกและคนปกติทั่วไปด้วยซึ่งเราสามารถใช้วิธีนี้หากเราจะลองปล่อยโฆษณาให้เห็นทั้งสองกลุ่มก่อนเพื่อดูว่ากลุ่มที่เคยเข้าเว็บไซต์เราแล้วมีความสนใจต่อโฆษณามากกว่าจริงหรือเปล่าครับหลังจากเลือกแล้วให้ทำตามต่อได้ดังนี้เลยครับ ให้เลือกที่มีวงเล็บว่า (remarketing and similar audience) จากนั้นให้เลือก audience ที่เราต้องการได้เลย แล้วกด Save เป็นอันเสร็จครับวิธีทำ remarketing ด้วย google ads

สรุป

การทำ remarketing ด้วย Google ads นั้นเหมือนจะซับซ้อน แต่จริงๆไม่อยากอย่างที่คิดเลยนะครับ หากเรามีการติดตั้ง platform ครบเราสามารถตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องมีพื้นฐาน Programming แต่อย่างใดในการทำครับ ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ

[/col]

[/row]

Recommended

Rank math SEO Tools

Rank Math คืออะไร ทำไมนักการตลาดสาย SEO ชอบใช้

Rank Math เป็นหนึ่งใน Plugin ของ wordpress ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้การทำ SEO ของเราง่ายขึ้น...
อ่านต่อ

การเขียนบล็อกด้วยตนเอง

การสร้างบล็อกด้วยตัวเองไม่ว่าจะผ่าน WordPress หรือ Webflow หรือระบบอื่นๆ นั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในปี 2023 เพราะมีตัวช่วยมากมาย และมีข้อมูลพร้อม community ที่ช่วยเหลือ...
อ่านต่อ
5 tips Google ads

5 เทคนิคควรทำใน Google Ads หากต้องการให้ Performance ดี

การโฆษณาบน Google เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพครับ เข้าหากลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ในงบประมาณที่ไม่แพงมาก...
อ่านต่อ
Line CRM คืออะไร

Line CRM มีข้อดีอย่างไร

แน่นอนว่า ไม่มีใครไม่รู้จัก LINE แอปพลิเคชันยอดฮิตที่คนไทย !...

อ่านต่อ