[row]
[col span__sm=”12″ padding=”0px 5px 0px 5px”]
เมื่อเราจะต้องดูแลและจัดการ campaign ในปริมาณมาก มีหลาย keyword ที่ต้อง optimize บางครั้งเราไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง และครบถ้วนเนื่องการดูแลแคมเปญให้ดีนั้นจะต้องใช้ความสม่ำเสมอ เช่นการปรับให้เหมาะสมกับ promotion ที่เรามีในขณะนั้นไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นรายเดือนหรือรายอาทิตย์ หรือจะเป็นการ optimize keyword, การทำ negative keyword การเปิดปิด โฆษณา ที่หมด promotion แล้ว แต่ถ้าเกิดในช่วงนั้นเรามีธุระที่จะต้องไปจัดการ
แต่ campaign ใหม่ กำลังจะขึ้น เราคงไม่มีเวลามานั่งจัดการได้ทั้งหมดแน่ หากเราต้องการที่จะทำงานให้เร็วขึ้นและยังมีเวลาจัดการกับสิ่งต่างๆรอบตัวเรา วันนี้ผมจะมาแนะนำ วิธีที่สามารถเป็นตัวช่วยในทำงานได้ดีในระดับนึงในกรณีที่เราไม่มีเวลาเข้ามาทำเอง นั่นก็คือการใช้ Rule นั่นเองครับ
google ads rule คืออะไร
Rule ใน Google ads คือ การที่เราตั้งค่าสิ่งที่เราต้องการขึ้นมาแล้วบอก Google Ads ให้ทำตามสิ่งที่เราตั้งค่าไว้ครับ โดยสิ่งที่เราสามารถตั้งค่าใน rule ได้เยอะมากๆซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ครับ
-
- Campaign
- Adgroup
- Keyword
- Ad
- Display keyword rule
- Topic
- Placement
- Audience
- Age range
- Gender
- Parental status
- Income range
โดยที่เราสามารถเลือกที่จะเปิดปิด, ปรับ bid, เพิ่ม bidadjustment และอื่นๆอีกมากมายเหมือนกับเรากำลังทำ google ads ด้วยตัวเองเลยครับ นอกจากนี้เรายังเลือกที่จะกำหนด rule ให้ทำงานตามที่เราต้องการอีกด้วยเช่น ให้ทำครั้งเดียว ทำทุกวัน หรือทำทุกอาทิตย์ ตามเวลาที่เราต้องการได้เลยครับ จุดเด่นที่สำคัญอีกข้อเลยคือเราสามารถให้ rule ทำงานตาม label หรือการติด tag ของเราได้เลยครับ แปลว่าเราสามารถ custom ได้เยอะมากๆเลย
เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่าง use case ที่ผมใช้บ่อยๆ ที่ผมเห็นว่ามันมีประโยชน์และใช้งานได้จริงครับ
การเปิดปิด campaign ตามเวลา
สิ่งที่ผมว่ามีประโยชน์มากที่สุดเลยสำหรับการใช้ rule คือการตั้งเวลาเปิดปิด campaign ที่เราต้องการในกรณีที่จะต้องขึ้น promotion ใหม่ หรือ promotion เก่าหมดแล้วเราจะต้องหยุดแสดงโฆษณาครับ ซึ่งวิธีทำนั้นมีดังนี้ครับ
- เข้าไปที่ tools > bulk action > rule
- ให้เลือกสร้างใหม่ แล้วเลือก Campaign Rule
- ตรง Action ให้เราเลือก pause campaign หากต้องการจะปิด campaign หรือ enable หากต้องการจะเปิด campaign ครับ
- ตรง Apply To เราสามารถเลือกได้ทั้ง account เลย หรือทุก campaign หรือสามารถเลือกเฉพาะ campaign ก็ได้ครับ
- ตรง Condition อันนี้จะมี 2 กรณีครับ หากต้องการจะปิด campaign ให้เลือกจาก all but removed ส่วนตรง frequency ให้เลือกเป็น once เพราะเราจะเปิดปิดแค่ครั้งเดียวครับ แล้วก็เลือกเวลาที่ต้องการได้เลย
- ตรงส่วน email เราสามารถเลือก email ที่จะส่งสรุปผลการทำงานของ Rule ไปให้ได้ด้วยครับ โดยที่เราจะเลือกให้ส่งเมื่อมี error หรือให้ส่งทุกอย่างเลยก็ได้ครับ
การ Optimize Keyword
อีกวิธีหนึ่งที่ผมชอบใช้คือการ ปรับบิดของ keyword ครับ ปกติ keyword ไหนที่มี conversion หรือ CTR ดีๆ ผมจะตั้งกฎให้ google ads ปรับ bid ให้ผมหรือ keyword ไหนของผมที่ตั้ง cpc ไว้น้อยไปเลยติด status “below first page bid” ผมก็จะตั้งให้มันปรับ bid ให้มากขึ้นเพื่อให้ keyword ติดหน้าแรกครับ
การสลับ ads เปลี่ยน promotion ด้วย label
ในกรณีที่ผมไม่ต้องการปรับเปลี่ยน campaign หรือ keyword แต่ผมต้องการที่จะสลับโฆษณาให้แสดงอันใหม่แทนแล้ว pause อันเก่าไป อันนี้เราสามารถทำได้ด้วยการใช้ label ช่วยในการแยกครับ หากเรามีการเตรียมโฆษณาชุดใหม่ไว้ล่วงหน้าซึ่งเราเอาขึ้นไปแล้ว แต่เราตั้ง pause ไว้ เราสามารถติด label ให้กับชุดโฆษณาใหม่ของเรา หลังจากนั้นให้ ตั้ง rule เพื่อสลับ เราจะต้องตั้ง rule ทั้งหมดสองชุดนะครับ ดังนี้ครับ
- ปิดโฆษณาชุดเดิม อันนี้คุณสามารถเข้าไปตั้งด้วย ad rule แล้วเลือก pause ad จากนั้นเลือก campaign ที่ต้องการพร้อมตั้งเวลาให้ rule ทำงานได้เลยครับ
- การเปิดโฆษณาชุดใหม่ อันนี้ให้เลือก ad rule แล้วเลือก enable ad จากนั้นให้เลือก campaign ที่เราต้องการและตรง condition ให้เลือก lable ที่เราติดตั้งไว้ล่วงหน้า ที่ต้องทำแบบนี้เพื่อให้ rule ทำงานกับ ad ที่เราต้องการให้เปิดขึ้นมาเท่านั้นครับ
สรุป
การใช้ Rule สามารถใช้ช่วยในการปรับปรุงและดูแล account และบัญชีของเราได้ใกล้เคียงหรือเหมือนกับเราเป็นคนทำเองได้เลยครับ เราสามารถลดเวลาในการทำงาน และทำงานได้เร็วขึ้นด้วยการใช้ rule ด้วยนะครับ ลองไปปรับใช้ดูครับ
[/col]
[/row]
