bid adjustment

วิธีการตั้ง bid สำหรับผู้เริ่มต้น และ การทำ bid adjustment ใน search campaign

การตั้ง bid และ การทำ bid adjustment ทำให้คุณสามารถ แสดงโฆษณาขึ้นบนหน้า Google ได้พร้อมทั้งการบริหาร budget และ optimize campaign ให้ตรงตามเป้าหมายการตลาดของเรา ในบทความนี้ผมจะอธิบายว่าระบบ bid กับ bid adjustment ทำงานใน search campaign ได้อย่างไรครับ

 

การทำ Bid Adjustment ในระดับ adgroup และ keyword เริ่มยังไงดี


วิธีการใช้ smart bidding การการที่เราตั้งค่าให้ Google Ads ปรับปรุงและดูแลการ bid ให้กับเราตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ในระดับ campaign ครับซึ่งข้อดีคือระบบจะทำการ optimize campaign ให้กับเราแบบอัติโนมัติตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่ ข้อเสีย คือเราจะไม่สามารถควบคุมการ bid ในระดับ keyword ได้เลยครับ แต่ถ้าเราใช้การ bid แบบ manual หรือ enhanced cpc จะทำให้เราสามารถควบคุมการตั้งค่า bid ในระดับ Adgroup และ Keyword ได้ แต่อาจจะยุ่งยากหน่อยเพราะเราจะต้อง performance ราย keyword เลย แต่เราจะได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า

 

หากคุณพึ่งเริ่มหัดทำ Google Ads ผมแนะนำให้เริ่มจากการใส่ keyword แต่ละ adgroup ให้ไม่เหมือนกันเลย และในแต่ละ adgroupนึงควรมี Keyword ไม่เกิน 5-10 keyword) แล้วลองตั้ง campaign ให้เป็น manual cpc  หลังจากนั้นให้ตั้ง max cpc ในระดับ adgroup ก่อนเพื่อเป็นการเก็บข้อมูล และดูว่า keyword ไหนทำงานดีที่สุดครับ หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันค่อยเริ่มกลับไปตั้ง bid ในแต่ละ keyword แทนเพื่อ เป็นการลงเงินใน keyword ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจเราครับ

 

การที่เราเริ่มจากการตั้ง bid แบบ manual cpc จะทำให้เราสามารถควบคุม bid ในแต่ละ keyword ได้ครับ


หลังจากนั้นประมาณอาทิตย์นึงเมื่อเรามีข้อมูลมากพอ เราสามารถทำ
bid simulator ได้ (bid simulator คือโปรแกรมของ Google ที่จะทำการคาดคะเน Performance จากข้อมูลที่เราเก็บมาอาทิตย์นึงให้เราในแต่ละ keyword ว่าเราจะมี คลิกเพิ่มมากขึ้นเท่าไร เมื่อเรา เพิ่ม บิด ให้มากขึ้นครับ)

จุดที่ต้องระวังคือ bid simulator จะไม่ทำงานถ้า campaign ของเราติด limited by budget หลายๆครั้ง หรือ เราพึ่งทำการรับการ bidding มา เพราะ Google Ads จะต้องทำการเก็บข้อมูลใหม่ครับ

 

ใช้งาน Bid Adjustment แบบไหนได้บ้าง


การทำ bid adjustment คือการเพิ่มลด bidding ในรูปแบบ % ในแต่ละเงื่อนไขเช่น 

    • device bid adjustment หรือการปรับในแต่ละอุปกรณ์
    • location bid adjustment หรือ การปรับในแต่ละพื้นที่ครับ
    • demographic bid adjustment หรือการปรับบิดในแต่ละช่วงอายุหรือเพศเพื่อเป็นการเน้นครับ
    • time bid adjustment หรือการปรับบิดในแต่ละช่วงเวลา
    • audience bid adjustment หรือ การปรับบิดในแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งไว้ครับ
    • Remarketing bid adjustment หรือ การปรับบิดโดยเน้นจากคนที่เคยเข้าเว็บไซต์เรามาก่อนครับ


การทำ bid adjustment นั้นสามารถตั้งได้เป็นช่วงโดยที่เราสามารถตั้งได้ตั้งแต่ (-100% – +900%) โดยที่ -100% คือเราเลือกที่จะปิดในส่วนนี้ไปเลยครับ การทำแบบนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุม account ได้มากขึ้นซึ่งทำให้เราสามารถทำให้เราได้ประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่ากับงบประมาณมากที่สุดครับ

สรุป


หากเราต้องการใช้งาน Bid Adjustmentใน account ของเรานั้นเราควรมีการเก็บข้อมูลให้มากพอก่อน ซึ่งวิธีการเก็บข้อมูลควรจะใช้การตั้งค่า bid แบบ manual cpc และเริ่มจากการตั้ง Bid ในระดับ adgroup และไม่ควรปรับบ่อยเพื่อให้ Machine Learning ของ Google Ads ได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นค่อยเริ่มเปลี่ยนวิธีการ bid ให้ลึกมากขึ้นอาจจะเป็นระดับ Keyword แทน หรือจะเป็นการใช้ Smart Bidding ได้เลยเพราะบัญชีได้มีการเรียนรู้มาก่อนแล้วครับ

Recommended

Rank math SEO Tools

Rank Math คืออะไร ทำไมนักการตลาดสาย SEO ชอบใช้

Rank Math เป็นหนึ่งใน Plugin ของ wordpress ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้การทำ SEO ของเราง่ายขึ้น...
อ่านต่อ

การเขียนบล็อกด้วยตนเอง

การสร้างบล็อกด้วยตัวเองไม่ว่าจะผ่าน WordPress หรือ Webflow หรือระบบอื่นๆ นั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในปี 2023 เพราะมีตัวช่วยมากมาย และมีข้อมูลพร้อม community ที่ช่วยเหลือ...
อ่านต่อ
5 tips Google ads

5 เทคนิคควรทำใน Google Ads หากต้องการให้ Performance ดี

การโฆษณาบน Google เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพครับ เข้าหากลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ในงบประมาณที่ไม่แพงมาก...
อ่านต่อ
Line CRM คืออะไร

Line CRM มีข้อดีอย่างไร

แน่นอนว่า ไม่มีใครไม่รู้จัก LINE แอปพลิเคชันยอดฮิตที่คนไทย !...

อ่านต่อ