การค้นหาในพื้นที่ใกล้เคียงหรือรอบตัวเราเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจมาก เพราะจากข้อมูล กว่า 80% ของผู้ใช้งานบน Google จะมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ในบริเวณใกล้เคียง ดังนั้นหากเราไม่ได้ปรับให้ธุรกิจของเราแสดงข้อมูลที่เพียงพอต่อผู้ใช้งานที่กำลังค้นหาข้อมูลเราอยู่ เราอาจจะเสียโอกาสสำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ครับ
หากเราต้องการที่จะ ปรับปรุงธุรกิจของเราให้เอื้อต่อการทำ local SEO หรือการแสดงข้อมูลที่เพียงพอสำหรับคนที่กำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของเรา วันนี้ผมได้ทำสรุปออกมาเพื่อเป็นแนวทางว่าเราสามารถใช้วิธีไหนในปรับปรุง SEO ให้ดีขึ้นได้ครับ
หวังว่าหลังจากได้ลองอ่าน guide book อันนี้แล้วทุกคนจะได้แนวทางในการปรับปรุง SEO ให้กับธุรกิจของคุณนะครับ
>> วิธีการทำ SEO สำหรับผู้เริ่มต้น
1. การทำ Google My Business
Google My Business กลายเป็นเครื่องมือที่เกือบทุกธุรกิจจะต้องใช้ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพราะ Google My Business สามารถให้ข้อมูลที่เหมาะสม กับผู้ใช้งานที่กำลังหาข้อมูลของธุรกิจเราครับ
เราจะต้องปรับหน้า Google My Business ที่เราสร้างขึ้นให้เรา verify หรือการยืนยันตัวตนกับทาง Google ว่าเราเป็นเจ้าของสถานที่นั้นจริงๆ นอกจากนั้นเรายังสามารถเชิญชวนให้ลูกค้าของเราช่วยรีวิว พร้อมการให้ rating กับธุรกิจของเราเพื่อว่า หาก รีวิวของเราดี จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าใหม่ของเราตัดสินใจง่ายขึ้นเวลาที่เค้ากำลังหาข้อมูลอยู่ครับ
2.การทำ internal link
ถึงแม้ว่า การทำ SEO ที่ดีคือการที่เราได้ link มาจากเว็บไซต์อื่นที่มี rating ที่ดี การทำ internal link หรือการทำลิ้งภายในเว็บไซต์ของเราเองจะช่วยเพิ่ม ranking ของเราได้ด้วยครับ
ข้อดีของการทำ internal link
- ช่วยเสริมการ navigate ในเว็บไซต์ เพื่อให้ user อยู่บนเว็บไซต์เรานานขึ้น
- ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์เราทั้งหมด
- ช่วยเพิ่ม page authority และ ranking กับทุกหน้าในเว็บไซต์ของเรา
- ช่วยเสริมการ navigate ในเว็บไซต์ เพื่อให้ user อยู่บนเว็บไซต์เรานานขึ้น
- ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์เราทั้งหมด
- ช่วยเพิ่ม page authority และ ranking กับทุกหน้าในเว็บไซต์ของเรา
3.การปรับ website url, title tag, header, meta description, และ content
หากเราพูดถึง content บนหน้าเว็บไซต์ ทุกๆ blog ที่เราสร้างขึ้นคือ หน้าที่เราต้องการให้ติด ranking บน google ซึ่งถ้าหาก blog ของเรามีการเขียน blog ขึ้นมาโดยมีการเน้น พื้นที่ หรือตำแหน่งรอบๆธุรกิจของเรา เมื่อมีคนค้นหาข้อมูลเกี่ยวสินค้าหรือบริการที่อยู่ใกล้ ตำแหน่งของธุรกิจเรา เราจะสามารถติด rank ได้ดีขึ้นครับ
ในทุกๆ content ที่เราเขียนขึ้นมา เราจะต้อง optimize หน้า content ให้มี keyword ที่มี volume เยอะ เพื่อให้เกิดการค้นหาเยอะๆ เกี่ยวกับคำเหล่านั้น นอกจากนี้เราควรจะนำ keyword ไปใส่ไว้ใน title / meta description รวมไปถึงการวางในเนื้อหาของเราครับ
4.การใส่ location เข้าไปในหน้าเว็บไซต์
ถ้าเราต้องการที่จะเน้นการสถานที่นั้นๆ สำหรับ content ของเรา เราควรที่จะใส่ข้อมูลรวมไปถึงรายละเอียดเข้าไปในเนื้อหาเว็บไซต์ของเรา ที่สำคัญไม่ควรสร้างหน้าที่มีเนื้อหาซ้ำๆ เพราะ google bot อาจจะให้คะแนนเว็บไซต์เราลดลงก็ได้นะครับ
5.การทำเว็บไซต์ให้เหมาะกับการแสดงผลในมือถือ
ประเด็นสำคัญเลยของการหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ คือการค้นหาผ่านมือถือครับ ในบางครั้งเราอาจจะหาสถานที่ไม่เจอในระหว่างที่เราไปเที่ยว เรามักจะเสิชหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่นั้นผ่านมือถือของเราครับ สิ่งที่เรามักจะหากันส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ รีวิว เส้นทางที่จะไปสถานที่นั้น หรือการหา contact เพื่อการติดต่อเข้าไปที่สถานที่
ดังนั้นเราควรจะมีข้อมูลให้ครบเพื่อให้ ผู้ใช้งานเจอข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายที่สุดครับ
6. การที backlink ที่ดีซึ่งมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
การมี backlink ที่ดีให้กับเว็บไซต์ของเรา จะช่วยเพิ่มคะแนน SEO ให้กับเว็บไซต์ของเราครับ ยิ่งเรามี backlink ที่ดีเยอะ Google จะมองว่าเราเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพซึ่งจะทำให้ การแสดงผลบน Google ดีขึ้นซึ่งหมายความว่าเราจะมี ranking ที่สูงขึ้นครับ ซึ่งเราสามารถหา backlink ของเราได้จาก การลงโฆษณาเช่นการทำ advertorial รวมไปถึงการทำ guest post ต่างๆครับ รวมไปถึงการใช้ social media ให้เป้นประโยชน์ เพื่อพร้อมกับการแชร์ลิ้งค์เว็บไซต์ของเราไว้ด้วยครับ
สรุป
การทำ SEO นั้นเป็นการทำเพื่อระยะยาว เว็บไซต์ของเราอาจจะไม่ได้ติดหน้าแรกของ Google ตั้งแต่วันแรก แต่ถ้าเราค่อยๆ optimize เว็บไซต์ของเราไปเรื่อย เริ่มมี backlink ที่มีคุณภาพเข้ามาที่เว็บไซต์ เว็บไซต์ของเราจะสามารถติดหน้าแรกได้ภายในไม้ช้าแน่นอนครับ
